ข้อความและภาพจาก หนังสือพิมพ์ M2F วันที่ 1 ตุลาคม 2014
คนเรามักจะถามว่า ถ้าอยากได้สิ่งนี้ จะต้องทำอย่างไร แต่ไม่เคยตั้งคำถามว่า เราทำไปเพื่ออะไร เพราะอะไร เหตุผลจูงใจที่ขับเคลื่อนสิ่งนั้นคืออะไร ถ้าคนเรามีเหตุผลให้กับสิ่งนั้นมากพอ ก็จะมีแรงผลักดันไปสู่วิธีทำได้เอง แต่ถ้าตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำไปเพื่ออะไร ต่อให้รู้ว่าต้องทำมันอย่างไรก็จะไม่ลงมือทำ
วัฒน์-นิวัฒน์ พรชัยวรกุล NLP Life Coach แห่งคอร์สกลยุทธ์สู่ความเป็นเลิศของบุคคลที่ประสบความสำเร็จของโลก ปัจจุบันเดินสายจัดอบรมให้แก่บริษัทชั้นนำทั่วไทย เผยว่า นี่เป็นลักษณะสำคัญประการหนึ่งของคนไทย ที่มักทำในสิ่งที่ไม่ตอบโจทย์ตัวตน และความต้องการที่แท้จริงของตนเอง มักตั้งเป้าหมายเอาไว้ที่ตัวเงิน ต้องได้เงินมากเท่านี้ ถึงจะพอใจ เมื่อไม่พอใจ ไม่ถึงเป้าหมาย ก็ต้องหาทางไปให้ถึงจนได้
ไม่ต้องไปมองที่ไหนไกล มนุษย์เงินเดือนนี่เองหลายคนคงตั้งเป้าหมายว่า อยากทำงานที่ได้ค่าตอบแทนสูงๆ เมื่อมีที่อื่นเสนอเงินเดือนที่สูงกว่า ก็พร้อมจะปรับเปลี่ยนโยกย้ายงาน เพราะคิดว่าซื้อความมั่นคงในระยะยาว
ยกตัวอย่างให้ฟังเรื่องของช่างปั้นดินเผา 2 คน ทั้งคู่ต้องการบุกเบิกธุรกิจเครื่องปั้นดินเผาลายไทยในตลาด AEC ช่างคนแรกทำไปเรื่อยๆเพราะใจรัก ช่างอีกคนตั้งเป้าว่าต้องทำกำไรเท่านั้นเท่านี้ เมื่อเปิดขายไป 1 ปี ธุรกิจก็ยังซบเซาไม่ทำเงิน แต่คนแรกยังอยู่ได้ เพราะมีความสุขที่ได้ทำมัน แต่ช่างอีกคนต้องเลิกกิจการไปสมัครงานบริษัทแล้วมองหาแต่งานที่เงินเดือนสูงๆ สุดท้ายก็จะเป็นวังวนเดิมคือ หากได้งานที่เงินดี ก็อาจจะไม่ใช่งานที่อยากทำ
นิวัฒน์ ยกอีกกรณี เป็นเด็ก ม.6 2 คนที่ฝันอยากเป็นหมอ คนแรกเป็นลูกคนมีฐานะ อยากเป็นหมอเพราะได้เงินดี มีคนนับหน้าถือตาในสังคม อีกคนเป็นเด็กชนบทห่างไกล ฝันอยากเป็นหมอเพื่อกลับไปช่วยเหลือบ้านเกิด หากถามว่า ใครจะเป็นหมอที่ดีและมีความสุขในระยะยาวมากกว่า อาจต้องยกให้เป็นเด็กคนหลังเพราะเขามุ่งมั่นที่จะทำประโยชน์ เพื่อผู้อื่นมากกกว่ายึดติดเงินเดือนแพงแบบโรงพยาบาลในเมือง
เพราะงานที่เงินเดือนแพง ใช่ว่าทำแล้วจะมีความสุขเสมอไป บางคนย้ายงานมา เพราะความจำเป็นทั้งที่ตัวงานมันไม่ใช่ เรื่องนี้นิวัฒน์บอกว่า คนเราอย่ามัวหลงเงินตรา ต้องหาเหตุผลอื่นที่มากกว่าเงินทองได้แล้ว
อย่างน้อยๆ ต้องเป็นเหตุผลที่มาจากการเข้าใจตนเอง รู้ความต้องการของตนเองที่แท้จริง เพื่อยุติวงจรการเปลี่ยนงานแบบอัพเงินเดือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เสียที
ถ้าคิดอ่านทำอะไรคนเดียว ยังเห็นไม่เด่นชัดพอ ลองหาเพื่อนคู่หู คนรู้ใจช่วยไถ่ถาม สะท้อนความเป็นตัวเราให้ชัดเจน ดึงภาพฝันที่แท้จริงออกมาเหมือนโค้ชฟุตบอล ดึงความสามารถที่ซ่อนในตัวนักเตะแต่ละคนออกมาให้ได้
ที่สำคัญ เมื่อไรที่เราค้นพบและเข้าใจตนเองแล้ว อย่าลืมที่จะส่งต่อ แบ่งปันสิ่งดีๆเหล่านั้นไปยังคนรอบข้างด้วย